ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ความจริงเกี่ยวกับคริสต์มาส

ความจริงเกี่ยวกับคริสต์มาส

ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​คริสต์มาส

คุณ​คิด​ว่า​สำคัญ​ไหม​ที่​จะ​รู้​ความ​จริง​เรื่อง​การ​ฉลอง​เทศกาล​ต่าง ๆ และ​คำ​สอน​ด้าน​ศาสนา? ถ้า​เช่น​นั้น คุณ​อาจ​เคย​ถาม​คำ​ถาม​เหล่า​นี้​มา​แล้ว​เช่น: (1) พระ​เยซู​ประสูติ​ใน​วัน​ที่ 25 ธันวาคม​จริง ๆ หรือ? (2) ใคร​คือ “พวก​นัก​ปราชญ์” และ​พวก​เขา​มี​สาม​คน​จริง​หรือ? (3) “ดาว” อะไร​นำ​ทาง​พวก​เขา​ไป​หา​พระ​เยซู? (4) ซานตาคลอส​มี​ความ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​พระ​เยซู​และ​การ​ประสูติ​ของ​พระองค์​ไหม? (5) พระเจ้า​ทรง​มี​ทัศนะ​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​ธรรมเนียม​การ​ให้​หรือ​การ​แลก​เปลี่ยน​ของ​ขวัญ​ใน​วัน​คริสต์มาส?

ตอน​นี้​ให้​เรา​พิจารณา​คำ​ถาม​เหล่า​นี้​โดย​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​ข้อ​เท็จ​จริง​ทาง​ประวัติศาสตร์​เป็น​พื้น​ฐาน.

(1) พระ​เยซู​ประสูติ​ใน​วัน​ที่ 25 ธันวาคม​ไหม?

ความ​เชื่อ​โดย​ทั่ว​ไป: ตาม​ที่​เชื่อ​กัน พระ​เยซู​ประสูติ​ใน​วัน​ที่ 25 ธันวาคม จึง​มี​การ​จัด​งาน​ฉลอง​ใน​วัน​นั้น. สารานุกรม​เกี่ยว​กับ​ศาสนา (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “คริสต์มาส” หมาย​ถึง “‘มิสซา​ของ​พระ​คริสต์’ ซึ่ง​ก็​คือ​พิธี​มิสซา​ฉลอง​งาน​เลี้ยง​วัน​ประสูติ​ของ​พระ​คริสต์.”

ที่​มา​ของ​เรื่อง: สารานุกรม​คริสต์มาส (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “การ​กำหนด​เอา​วัน​ที่ 25 ธันวาคม​ไม่​ได้​มา​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล แต่​มา​จาก​เทศกาล​นอก​รีต​ของ​ชาว​โรมัน​ซึ่ง​จัด​ขึ้น​ตอน​สิ้น​ปี” ใน​ช่วง​ที่​ดวง​อาทิตย์​มา​ถึง​จุด​เหมา​ยัน​สำหรับ​ซีก​โลก​เหนือ. เทศกาล​เหล่า​นั้น​นับ​รวม​ถึง​เทศกาล​แซทเทอร์นาเลีย​ซึ่ง​เป็น​เกียรติ​แก่​เทพเจ้า​แซทเทิร์น​แห่ง​เกษตรกรรม “และ​อีก​สอง​เทศกาล​ที่​ถูก​นำ​มา​รวม​กัน​ซึ่ง​ให้​เกียรติ​แก่​เทพเจ้า​โซล​ของ​โรมัน​และ​เทพเจ้า​มิทรา​ของ​เปอร์เซีย” สารานุกรม​ฉบับ​เดียว​กัน​กล่าว​ไว้. การ​ฉลอง​วัน​เกิด​ของ​เทพเจ้า​สอง​องค์​นี้​ถูก​จัด​ขึ้น​ใน​วัน​ที่ 25 ธันวาคม วัน​ที่​ดวง​อาทิตย์​มา​ถึง​จุด​เหมา​ยัน​ตาม​ปฏิทิน​จูเลียน.

เทศกาล​แบบ​นอก​รีต​เหล่า​นั้น​เริ่ม​เข้า​มา​อยู่​ใน​การ​นมัสการ​ของ “คริสเตียน” ใน​ปี 350 เมื่อ​สันตะปาปา​จูเลียส​ที่ 1 ประกาศ​ให้​วัน​ที่ 25 ธันวาคม​เป็น​วัน​ประสูติ​ของ​พระ​คริสต์. สารานุกรม​เกี่ยว​กับ​ศาสนา บอก​ว่า “เรื่อง​ราว​การ​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู​ค่อย ๆ ซึมซับ​หรือ​เข้า​มา​แทน​ที่​พิธีกรรม​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​จัด​ใน​วัน​ที่​ดวง​อาทิตย์​มา​ถึง​จุด​เหมา​ยัน. เริ่ม​มี​การ​ใช้​สัญลักษณ์​ของ​ดวง​อาทิตย์​เพื่อ​หมาย​ถึง​พระ​คริสต์​ที่​ถูก​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์ (ผู้​ถูก​เรียก​ด้วย​ว่า​โซล อินวิกทุส) และ​วง​กลม​แห่ง​ดวง​อาทิตย์ . . . กลาย​มา​เป็น​แสง​รัศมี​รอบ​ศีรษะ​เหล่า​นัก​บุญ​ใน​ศาสนา​คริสต์.”

สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว: คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​บอก​วัน​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู. แต่​เรา​ลง​ความ​เห็น​ได้​ว่า​พระองค์​ไม่​ได้​ประสูติ​ใน​วัน​ที่ 25 ธันวาคม. เพราะ​อะไร? คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ว่า​เมื่อ​พระ​เยซู​ประสูติ คน​เลี้ยง​แกะ “อยู่​ใน​ทุ่ง​หญ้า” กำลัง​เฝ้า​ฝูง​แกะ​ของ​ตน​ตอน​กลางคืน​บริเวณ​ชาน​เมือง​เบทเลเฮม. (ลูกา 2:8) ปกติ​แล้ว ฤดู​ฝน​ที่​หนาว​เย็น​เริ่ม​ใน​เดือน​ตุลาคม และ​คน​เลี้ยง​แกะ โดย​เฉพาะ​คน​ที่​อยู่​ตาม​พื้น​ที่​ภูเขา​รอบ ๆ เบทเลเฮม​ซึ่ง​อากาศ​หนาว​กว่า​ก็​จะ​ต้อน​ฝูง​แกะ​ไป​หลบ​ภาย​ใน​คอก​ตอน​กลางคืน. บาง​ครั้ง​เมื่อ​อากาศ​หนาว​ที่​สุด​หิมะ​จะ​ตก​ด้วย ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​ใน​ช่วง​เดือน​ธันวาคม. a

น่า​สังเกต คริสเตียน​สมัย​แรก​รวม​ทั้ง​หลาย​คน​ที่​ร่วม​เดิน​ทาง​กับ​พระ​เยซู​ใน​งาน​รับใช้ ไม่​เคย​ฉลอง​วัน​เกิด​ของ​พระองค์​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​วัน​ใด​ก็​ตาม. แต่​พวก​เขา​ระลึก​ถึง​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์​เท่า​นั้น ตาม​ที่​พระองค์​ทรง​บัญชา. (ลูกา 22:17-20; 1 โครินท์ 11:23-26) กระนั้น บาง​คน​อาจ​ถาม​ว่า ‘ความ​เกี่ยว​โยง​กับ​ธรรมเนียม​นอก​รีต​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​ไหม?’ จะ​ตอบ​อย่าง​ไร? สำคัญ​ที​เดียว​สำหรับ​พระเจ้า. พระ​เยซู​คริสต์​ตรัส​ว่า “ผู้​นมัสการ​แท้​จะ​นมัสการ​พระ​บิดา​ด้วย​พระ​วิญญาณ​และ​ความ​จริง.”โยฮัน 4:23

(2) มี “นัก​ปราชญ์” กี่​คน? พวก​เขา​เป็น​ใคร?

วาม​เชื่อ​โดย​ทั่ว​ไป: “ดาว” ดวง​หนึ่ง​ได้​นำ​ทาง​คน​เหล่า​นี้​มา​จาก​ทิศ​ตะวัน​ออก ภาพ​วาด​ต่าง ๆ แสดง​ว่า “นัก​ปราชญ์” สาม​คน​ได้​มอบ​ของ​ขวัญ​แก่​พระ​เยซู​ขณะ​นอน​อยู่​ใน​ราง​หญ้า​ที่​คอก​สัตว์. บาง​ครั้ง​ใน​ภาพ​มี​คน​เลี้ยง​แกะ​อยู่​ด้วย.

ที่​มา​ของ​เรื่อง: นอก​จาก​บันทึก​สั้น ๆ ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​แล้ว สารานุกรม​คริสต์มาส ยัง​กล่าว​ว่า “ทุก​เรื่อง​ที่​มี​การ​เขียน​เกี่ยว​กับ​พวก​นัก​ปราชญ์​มา​จาก​ตำนาน​เป็น​ส่วน​ใหญ่.”

สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว: คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​บอก​ว่า​มี “นัก​ปราชญ์” กี่​คน​มา​หา​พระ​เยซู. อาจ​มี​สอง​คน สาม​คน สี่​คน​หรือ​มาก​กว่า​ก็​ได้. แม้​ถูก​เรียก​ว่า “นัก​ปราชญ์” ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​บาง​ฉบับ แต่​คำ​นี้​ใน​ภาษา​เดิม​คือ​มากอย หมาย​ถึง​โหร​หรือ​พ่อมด ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “เป็น​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​เกลียด​ชัง.” (พระ​บัญญัติ 18:10-12) เนื่อง​จาก​พวก​เขา​เดิน​ทาง​ไกล​มา​จาก​ทาง​ตะวัน​ออก พวก​โหร​จึง​มา​ไม่​ทัน​ตอน​ที่​พระ​เยซู​อยู่​ใน​ราง​หญ้า. แต่​หลัง​จาก​การ​เดิน​ทาง​ซึ่ง​อาจ​นาน​หลาย​เดือน พวก​เขา “เข้า​ไป​ใน​บ้าน” ที่​พระ​เยซู​อยู่. ที่​นั่น​พวก​เขา​เห็น “พระ​กุมาร​กับ​มาเรีย​ผู้​เป็น​มารดา.”—มัดธาย 2:11

(3) “ดาว” อะไร​นำ​พวก​โหร​ไป​หา​พระ​เยซู?

เรา​พอ​จะ​รู้​ได้​ว่า​นั่น​เป็น​ดาว​อะไร​เมื่อ​พิจารณา​ว่า​ดาว​นั้น​นำ​พวก​โหร​ไป​ที่​ไหน. ตอน​แรก ดาว​นั้น​ไม่​ได้​นำ​พวก​โหร​ตรง​ไป​เบทเลเฮม แต่​ไป​ที่​กรุง​เยรูซาเลม ซึ่ง​เรื่อง​ที่​พวก​เขา​ไต่ถาม​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​ได้​ยิน​ไป​ถึง​กษัตริย์​เฮโรด. ครั้น​แล้ว​เฮโรด​จึง “เรียก​พวก​โหร​มา​อย่าง​ลับ ๆ” และ​พวก​เขา​ได้​เล่า​เรื่อง “กษัตริย์​ของ​ชาว​ยิว” ที่​เพิ่ง​ประสูติ​ให้​เฮโรด​ฟัง. แล้ว​เฮโรด​ก็​รับสั่ง​ว่า “จง​ไป​เสาะ​หา​พระ​กุมาร​นั้น​เถิด เมื่อ​พบ​แล้ว​จง​กลับ​มา​แจ้ง​เรา.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม ที่​เฮโรด​สนใจ​พระ​เยซู​ไม่​ใช่​ใน​ทาง​ดี. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น ผู้​ปกครอง​ที่​อำมหิต​และ​หยิ่ง​ยโส​ผู้​นี้​ตั้งใจ​จะ​เอา​ชีวิต​พระ​เยซู!—มัดธาย 2:1-8, 16

น่า​สนใจ ตอน​นี้ “ดาว” นำ​พวก​โหร​ลง​ใต้​ไป​ยัง​เบทเลเฮม. ที่​นั่น ดาว​ได้​มา “หยุด” อยู่​เหนือ​บ้าน​ที่​พระ​เยซู​อยู่.—มัดธาย 2:9, 10

เห็น​ได้​ชัด​ว่า​นี่​ไม่​ใช่​ดาว​ธรรมดา​แน่ ๆ! และ​ถ้า​พระเจ้า​ได้​ใช้​ทูตสวรรค์​ไป​บอก​คน​เลี้ยง​แกะ​ที่​ต่ำต้อย​เรื่อง​การ​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู ทำไม​พระองค์​จึง​จะ​ใช้​ดาว​ให้​นำ​ทาง​พวก​โหร​นอก​รีต​ไป​หา​ศัตรู​ของ​พระ​เยซู​ก่อน​ไป​พบ​พระ​กุมาร? การ​ลง​ความ​เห็น​ที่​มี​เหตุ​ผล​อย่าง​เดียว​ก็​คือ​ดาว​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​ซาตาน​ใช้​ด้วย​เจตนา​ร้าย และ​มัน​สามารถ​แสดง​หมาย​สำคัญ​เช่น​นั้น​ได้. (2 เทสซาโลนิเก 2:9, 10) น่า​แปลก​ที่​ผู้​คน​มัก​จะ​ประดับ​ดาว​แห่ง​เบทเลเฮม​ไว้​บน​ยอด​ต้น​คริสต์มาส.

(4) ซานตาคลอส​มี​ความ​เกี่ยว​ข้อง​อะไร​กับ​พระ​เยซู​และ​การ​ประสูติ​ของ​พระองค์?

ความ​เชื่อ​โดย​ทั่ว​ไป: ใน​หลาย​ประเทศ ถือ​กัน​ว่า​ซานตาคลอส​เป็น​ผู้​ที่​นำ​ของ​ขวัญ​มา​ให้​เด็ก ๆ. b พวก​เด็ก ๆ มัก​จะ​เขียน​ถึง​ซานตา​เพื่อ​ขอ​ของ​ขวัญ ซึ่ง​ตาม​ธรรมเนียม​ที่​สืบ​ต่อ​กัน​มา เทวดา​ตัว​น้อย​ช่วย​ซานตา​ทำ​ของ​ขวัญ​อยู่​ที่​สำนักงาน​ใหญ่​ใน​ขั้ว​โลก​เหนือ.

ที่​มา​ของ​เรื่อง: ตาม​ทัศนะ​ของ​คน​ทั่ว​ไป ตำนาน​เรื่อง​ซานตาคลอส​มี​ที่​มา​จาก​เรื่อง​ราว​ของ​นัก​บุญ​นิโคลาส อาร์ช​บิชอป​แห่ง​มิรา​ใน​เอเชีย​ไมเนอร์ ปัจจุบัน​อยู่​ใน​ประเทศ​ตุรกี. สารานุกรม​คริสต์มาส กล่าว​ว่า “เกือบ​ทุก​สิ่ง​ที่​เขียน​ไว้​เกี่ยว​กับ​นัก​บุญ​นิโคลาส​เป็น​เรื่อง​ราว​จาก​ตำนาน.” ชื่อ “ซานตาคลอส” อาจ​มา​จาก​คำ​ว่า​ซินเตอร์คลาส ซึ่ง​เพี้ยน​มา​จาก​คำ​ภาษา​ดัตช์​ที่​แปล​ว่า “นัก​บุญ​นิโคลาส.” ทั้ง​แง่​ประวัติศาสตร์​และ​คัมภีร์​ไบเบิล ซานตาคลอส​ไม่​มี​อะไร​เหมือน​กับ​พระ​เยซู​คริสต์​เลย.

สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว: “ฉะนั้น เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เลิก​พูด​มุสา​แล้ว ให้​พวก​ท่าน​แต่​ละ​คน​พูด​ความ​จริง​กับ​เพื่อน​บ้าน.” “เพื่อน​บ้าน” ที่​ใกล้​ชิด​ที่​สุด​ของ​เรา​ก็​คือ​สมาชิก​ใน​ครอบครัว. (เอเฟโซส์ 4:25) คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ด้วย​ว่า เรา​ควร “รัก​ซึ่ง​ความ​จริง” “พูด​แต่​คำ​จริง​จาก​ใจ​ของ​ตน.” (ซะคาระยา 8:19; บทเพลง​สรรเสริญ 15:2) จริง​อยู่ การ​บอก​เด็ก ๆ ว่า​ซานตา (หรือ​กุมาร​เยซู) เป็น​ผู้​ให้​ของ​ขวัญ​ใน​วัน​คริสต์มาส อาจ​ดู​เหมือน​เป็น​ความ​สนุก​ที่​ไม่​มี​พิษ​มี​ภัย แต่​เป็น​สิ่ง​ถูก​ต้อง​หรือ​สุขุม​ไหม​ที่​จะ​หลอก​เด็ก​เล็ก ๆ แม้​ว่า​จะ​ไม่​มี​เจตนา​ร้าย? คุณ​คิด​ว่า​ถูก​ไหม​ที่​จะ​หลอก​เด็ก ๆ ใน​โอกาส​ซึ่ง​ถือ​กัน​ว่า​เป็น​การ​ให้​เกียรติ​พระ​เยซู?

(5) พระเจ้า​ทรง​มี​ทัศนะ​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​การ​ให้​ของ​ขวัญ​และ​การ​เลี้ยง​รื่นเริง​ใน​วัน​คริสต์มาส?

ความ​เชื่อ​โดย​ทั่ว​ไป: การ​ให้​ของ​ขวัญ​ใน​วัน​คริสต์มาส​ต่าง​จาก​การ​ให้​ของ​ขวัญ​ใน​เทศกาล​อื่น ๆ ตรง​ที่​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​เป็น​การ​แลก​เปลี่ยน​ของ​ขวัญ และ​ลักษณะ​เด่น​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ของ​เทศกาล​คริสต์มาส​คือ​การ​เลี้ยง​สังสรรค์ และ​การ​กิน​การ​ดื่ม.

ที่​มา​ของ​เรื่อง: เทศกาล​แซทเทอร์นาเลีย​ของ​โรมัน​โบราณ​เริ่ม​ใน​วัน​ที่ 17 ธันวาคม​และ​สิ้น​สุด​ลง​ใน​วัน​ที่ 24 ธันวาคม ซึ่ง​มี​การ​แลก​เปลี่ยน​ของ​ขวัญ​กัน. ตาม​บ้าน​และ​ถนน​หน​ทาง​เต็ม​ไป​ด้วย​เสียง​อึกทึก​ของ​งาน​เลี้ยง, การ​ดื่ม​จัด, และ​ความ​วุ่นวาย. หลัง​จาก​งาน​แซทเทอร์นาเลีย ก็​จะ​มี​การ​ฉลอง​วัน​แรก​ของ​เดือน​มกราคม. การ​ฉลอง​นี้​ก็​มี​การ​เลี้ยง​รื่นเริง​ด้วย ตาม​ปกติ​ใช้​เวลา​ประมาณ​สาม​วัน. งาน​แซทเทอร์นาเลีย​และ​การ​ฉลอง​วัน​แรก​ของ​เดือน​มกราคม​คง​ถูก​รวม​เป็น​เทศกาล​เดียว​ที่​ต่อ​เนื่อง​กัน.

สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว: ความ​ยินดี​และ​ความ​ใจ​กว้าง​เป็น​ลักษณะ​เด่น​ของ​การ​นมัสการ​แท้. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​ผู้​ชอบธรรม, จง​ชื่นชม​ยินดี​ใน​พระ​ยะโฮวา; และ​บรรดา​ผู้​ที่​มี​ใจ​เที่ยง​ตรง​จง​โห่​ร้อง​ยินดี​เถิด.” (บทเพลง​สรรเสริญ 32:11) ความ​ยินดี​เช่น​นั้น​มัก​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ความ​ใจ​กว้าง. (สุภาษิต 11:25) พระ​เยซู​คริสต์​ตรัส​ว่า “การ​ให้​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​การ​รับ.” (กิจการ 20:35) พระองค์​ยัง​ตรัส​ด้วย​ว่า “จง​ให้​แก่​ผู้​อื่น” และ​ทำ​เช่น​นี้​เป็น​ประจำ​ใน​ชีวิต​ของ​คุณ.—ลูกา 6:38

การ​ให้​เช่น​นี้​ต่าง​กัน​มาก​จาก​การ​ให้​แบบ​พอ​เป็น​พิธี​หรือ​การ​ให้​เพราะ​ถูก​บังคับ​โดย​ธรรมเนียม​ของ​สังคม. เมื่อ​พรรณนา​ความ​ใจ​กว้าง​ที่​แท้​จริง คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “ให้​แต่​ละ​คน​ทำ​อย่าง​ที่​เขา​มุ่ง​หมาย​ไว้​ใน​ใจ ไม่​ใช่​ด้วย​ฝืน​ใจ​หรือ​ถูก​บังคับ เพราะ​ว่า​พระเจ้า​ทรง​รัก​ผู้​ที่​ให้​ด้วย​ใจ​ยินดี.” (2 โครินท์ 9:7) คน​ที่​ทำ​ตาม​หลักการ​อัน​ยอด​เยี่ยม​นี้​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​จะ​เป็น​ผู้​ให้​เพราะ​ความ​ใจ​กว้าง​ของ​เขา​กระตุ้น​ให้​ทำ​อย่าง​นั้น ซึ่ง​อาจ​เป็น​เวลา​ใด​ก็​ได้​ใน​รอบ​ปี. แน่​ใจ​ได้​ว่า การ​ให้​เช่น​นี้​ได้​รับ​พระ​พร​จาก​พระเจ้า และ​ไม่​เป็น​ภาระ​หนัก​เลย.

ถ้อย​คำ​หลอก​ลวง!

เมื่อ​พิจารณา​โดย​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​เห็น​ได้​ว่า​แทบ​จะ​ทุก​แง่​มุม​ของ​คริสต์มาส​มี​ต้น​กำเนิด​มา​จาก​เทศกาล​นอก​รีต​หรือ​ไม่​ก็​เป็น​การ​บิดเบือน​บันทึก​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. ดัง​นั้น เทศกาล​คริสต์มาส​จึง​ไม่​ได้​เป็น​ของ​คริสเตียน. คริสต์มาส​กลาย​มา​เป็น​เทศกาล​ของ​คริสเตียน​ได้​อย่าง​ไร? หลาย​ศตวรรษ​หลัง​จาก​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระ​คริสต์ ก็​เกิด​มี​ผู้​สอน​เท็จ​หลาย​คน​อย่าง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า. (2 ติโมเธียว 4:3, 4) คน​ที่​ไม่​มี​ศีลธรรม​เหล่า​นี้​สนใจ​การ​ทำ​ให้​ศาสนา​คริสเตียน​เป็น​ที่​นิยม​ของ​ประชาชน​ที่​นับถือ​ศาสนา​นอก​รีต​มาก​กว่า​การ​สอน​ความ​จริง. ด้วย​เหตุ​นั้น พวก​เขา​ค่อย ๆ รับ​เอา​เทศกาล​ของ​ศาสนา​นอก​รีต​ซึ่ง​เป็น​ที่​นิยม​กัน แล้ว​อ้าง​ว่า​เป็น​ของ “คริสเตียน.”

คัมภีร์​ไบเบิล​เตือน​ว่า “ผู้​สอน​เท็จ” เหล่า​นี้ “จะ​ฉวย​ประโยชน์​จาก​ท่าน​ทั้ง​หลาย . . . โดย​ใช้​ถ้อย​คำ​หลอก​ลวง. แต่​การ​พิพากษา​สำหรับ​พวก​เขา​ซึ่ง​กำหนด​ไว้​ตั้ง​แต่​สมัย​โบราณ​จะ​ไม่​ชักช้า และ​ความ​พินาศ​ของ​พวก​เขา​จะ​มี​มา​แน่.” (2 เปโตร 2:1-3) พยาน​พระ​ยะโฮวา​ถือ​ว่า​ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​เป็น​เรื่อง​จริงจัง เช่น​เดียว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ทั้ง​เล่ม ซึ่ง​พวก​เขา​ถือ​ว่า​เป็น​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. (2 ติโมเธียว 3:16) ฉะนั้น พวก​เขา​ปฏิเสธ​ธรรมเนียม​หรือ​การ​ฉลอง​ของ​ศาสนา​เท็จ. การ​ที่​พวก​เขา​มี​ทัศนะ​เช่น​นี้​ทำ​ให้​พวก​เขา​ขาด​ความ​สุข​ไหม? ตรง​กัน​ข้าม​อย่าง​สิ้นเชิง! ดัง​ที่​เรา​จะ​พิจารณา​กัน​ใน​ตอน​นี้ พวก​เขา​ประสบ​ด้วย​ตัว​เอง​ว่า​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ปลด​ปล่อย​เขา​ให้​เป็น​อิสระ!

[เชิงอรรถ]

a ดู​เหมือน​ว่า​พระ​เยซู​ประสูติ​ระหว่าง​เดือน​เอ​ทา​นิม​ตาม​ปฏิทิน​ของ​ชาว​ยิว​โบราณ (กันยายน-ตุลาคม).—ดู​หนังสือ​อ้างอิง​การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​พระ​คัมภีร์ (ภาษา​อังกฤษ) เล่ม 2 หน้า 56 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

b รายงาน​ข่าว​ของ​สำนัก​ข่าว​บี​บี​ซี กล่าว​ว่า ใน​บาง​ประเทศ​แถบ​ยุโรป เช่น ออสเตรีย “ผู้​คน​คาด​หมาย​ว่า​กุมาร​เยซู​จะ​มา​เยี่ยม​ไม่​ใช่​ซานตา.” ถึง​กระนั้น การ​เยี่ยม​นี้​ก็​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ให้​ของ​ขวัญ.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 8]

หว่าน​วัชพืช​ก็​จะ​เก็บ​เกี่ยว​วัชพืช

หนังสือ​ธรรมเนียม​ประเพณี​ของ​คริสต์มาส—ความ​เป็น​มา​และ​ความ​สำคัญ (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า ใน​สมัย​หนึ่ง ผู้​นำ​คริสตจักร​ต่อ​สู้ “อย่าง​รุนแรง​ต่อ​สิ่ง​ที่​หลง​เหลือ​มา​จาก​ศาสนา​นอก​รีต.” แต่​ใน​เวลา​ต่อ​มา ผู้​นำ​คริสตจักร​เริ่ม​สนใจ​ให้​มี​คน​มา​โบสถ์​มาก​กว่า​การ​สอน​ความ​จริง. ด้วย​เหตุ​นั้น พวก​เขา​เริ่ม “ปิด​หู​ปิด​ตา” ต่อ​กิจ​ปฏิบัติ​นอก​รีต​เหล่า​นั้น. ต่อ​มา พวก​เขา​รับ​เอา​สิ่ง​เหล่า​นั้น​อย่าง​เต็ม​ใจ.

คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “ใคร​หว่าน​อะไร​ก็​จะ​เก็บ​เกี่ยว​สิ่ง​นั้น.” (กาลาเทีย 6:7) หลัง​จาก​หว่าน​เมล็ด​นอก​รีต​ลง​ใน​ที่​นา​ของ​ตน คริสตจักร​ก็​ไม่​ควร​แปลก​ใจ​ที่ “วัชพืช” เจริญ​งอกงาม. เทศกาล​ที่​ถือ​ว่า​เป็น​การ​ฉลอง​วัน​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู​กลาย​มา​เป็น​โอกาส​ที่​จะ​สำมะเลเทเมา, ห้าง​สรรพ​สินค้า​เป็น​ที่​นิยม​มาก​กว่า​โบสถ์, หลาย​ครอบครัว​เป็น​หนี้​ท่วม​หัว​เพราะ​ซื้อ​ของ​ขวัญ, และ​เด็ก ๆ คิด​ว่า​นิทาน​เป็น​เรื่อง​จริง ทั้ง​ยัง​คิด​ว่า​ซานตาคลอส​เป็น​พระ​เยซู​คริสต์. ใช่​แล้ว ด้วย​เหตุ​ผล​ที่​ดี พระเจ้า​จึง​ตรัส​ว่า “จง . . . เลิก​แตะ​ต้อง​สิ่ง​ที่​ไม่​สะอาด.”—2 โครินท์ 6:17

[ภาพ​หน้า 7]

เทศกาล​คริสต์มาส เช่น​เดียว​กับ​เทศกาล​แซทเทอร์นาเลีย​ใน​สมัย​โบราณ มี​ลักษณะ​เด่น​คือ​การ​เลี้ยง​สังสรรค์ และ​การ​กิน​การ​ดื่ม

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

© Mary Evans Picture Library